เทคนิคสำคัญในการทำ Search Engine Optimize (SEO)
Febuary 20, 2025
การทำ Search Engine Optimization (SEO) ให้ได้ผลดี ต้องอาศัยเทคนิคสำคัญหลายด้าน สามารถแบ่งเป็น 3 ด้านหลัก ๆ ได้แก่ On-Page SEO, Off-Page SEO และ Technical SEO
On-Page SEO
การปรับแต่งเนื้อหาบนเว็บไซต์
การเลือกใช้คีย์เวิร์ด (Keyword Optimization)
- ค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีศักยภาพ (ใช้ Ahrefs, Google Keyword Planner, SEMrush)
- ใช้คีย์เวิร์ดหลักใน Title, H1, Meta Description, URL และเนื้อหา
- ใช้ Long-tail Keywords เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับ
การเขียนเนื้อหาคุณภาพ (High-Quality Content)
- เนื้อหาต้องมี ความยาวเหมาะสม (800+ คำสำหรับบทความทั่วไป)
- ต้องตอบโจทย์ผู้ใช้ (Search Intent) เช่น ถ้าคีย์เวิร์ดคือ "รีวิวมือถือ" ควรเป็นบทความรีวิวจริง
- ใช้ Bullet Points, Headings (H1-H3), และ Visual Content เพื่อให้อ่านง่าย
การปรับโครงสร้าง URL (SEO-Friendly URL)
- ควรเป็น URL สั้น กระชับ และมีคีย์เวิร์ด เช่น example.com/seo-tips
การใช้ Meta Tags ให้เหมาะสม
- Title Tag: ต้องดึงดูดและมีคีย์เวิร์ด (ไม่เกิน 60 ตัวอักษร)
- Meta Description: คำอธิบายที่ช่วยเพิ่ม CTR (ไม่เกิน 160 ตัวอักษร)
- Alt Text: ใช้คีย์เวิร์ดในคำอธิบายรูปภาพ
Internal Linking & External Linking
- ลิงก์ไปยัง บทความที่เกี่ยวข้องภายในเว็บ (ช่วย Google เข้าใจโครงสร้างเว็บ)
- ลิงก์ไป เว็บที่มีความน่าเชื่อถือ (Authority Websites)

Off-Page SEO
การทำอันดับจากปัจจัยภายนอกเว็บไซต์
การสร้าง Backlink คุณภาพ
- ได้ลิงก์จากเว็บที่มี Domain Authority สูง (เช่น Forbes, Wikipedia)
- ใช้ Guest Posting และ PR Outreach เพื่อขอลิงก์จากเว็บที่เกี่ยวข้อง
- หลีกเลี่ยง Spammy Backlinks ที่อาจทำให้เว็บโดนลงโทษจาก Google
Social Signals & Engagement
- แชร์บทความบน Facebook, Twitter, LinkedIn เพื่อเพิ่มทราฟฟิก
- กระตุ้นให้คนแชร์เนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย
Local SEO & Google My Business
- ลงทะเบียน Google My Business (GMB) ให้ติดอันดับใน Google Maps
- ใส่ ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์ (NAP: Name, Address, Phone Number) ให้ตรงกันในทุกแพลตฟอร์ม
Technical SEO
การปรับปรุงด้านเทคนิคของเว็บไซต์
ปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์ (Page Speed Optimization)
- ใช้ Google PageSpeed Insights ตรวจสอบความเร็ว
- บีบอัดภาพ (ใช้ WebP แทน JPG/PNG)
- ลดโค้ดที่ไม่จำเป็น (Minify CSS, JS)
Mobile-Friendly & Responsive Design
- ต้องรองรับ Mobile-First Indexing (เว็บต้องใช้งานง่ายบนมือถือ)
- ใช้ Responsive Design ให้เหมาะกับทุกหน้าจอ
ปรับปรุง Core Web Vitals
- LCP (Largest Contentful Paint): เว็บโหลดเร็วไม่เกิน 2.5 วินาที
- FID (First Input Delay): ตอบสนองเร็ว ไม่เกิน 100 มิลลิวินาที
- CLS (Cumulative Layout Shift): องค์ประกอบหน้าเว็บไม่ขยับผิดปกติ
สร้าง XML Sitemap และ Robots.txt
- ให้ Google Bot เข้าใจโครงสร้างเว็บและจัดอันดับได้ดีขึ้น
ใช้ HTTPS (SSL Certificate)
- เว็บที่มี SSL (HTTPS://) จะปลอดภัยและได้อันดับดีกว่าเว็บ HTTP